กรณีท่านต้องการทำผ่านแอปพลิเคชัน วิธีการยืนยันตัวตน สำหรับชาวต่างชาติ (Level 1)
1. เข้าสู่ระบบผ่านหน้าเว็บ Bitkub.com
2. เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยเเล้ว หน้าเว็บจะมาที่ หน้าเเรก โดยมีเมนูที่เเจ้งว่า การยืนยันตัวตน โปรดคลิกคำว่า “ยืนยันตอนนี้” เพื่อเข้าสู่การยืนยันตัวตน
3. เมื่อเข้ามายังเมนูยืนยันตัวตนเเล้ว กดคำว่า “ยืนยัน"
4. กด "ดำเนินการต่อ"
5. เมื่อเข้ามาเเล้วจะมีประเภทพลเมืองให้เลือก 2 เเบบ คือ บุคคลสัญชาติไทย เเละ บุคคลต่างชาติ
ในกรณีนี้ ให้เลือก บุคคลต่างชาติ
ระบบจะแสดงเงื่อนไขข้อตกลง FATCA ซึ่งท่านต้องทำความเข้าใจ และตอบคำถามในแต่ละหมวดหมู่ดังนี้
- ส่วนที่ 1 สถานะของลูกค้า
A. หากท่านมีสถานะตรงตามนี้ ให้ท่านกดที่ "หากข้อมูลใน "A. ถามเพื่อตรวจสถานะความเป็นบุคคลอเมริกัน" ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดตรงกับสถานะของคุณ กรุณาคลิกที่นี่"
ขั้นตอน
1.) ดาวน์โหลดเอกสาร และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
2.) แนบไฟล์เอกสารที่ท่านกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
3.) ระบุข้อมูล U.S. social security และ U.S. employer identification number
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กด “ถัดไป”
B. หากท่านมีสถานะตรงตามนี้ ให้ท่านเลือกที่ "หากข้อมูลใน "B. คำถามเพิ่มเติม" ส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดตรงกับสถานะของคุณ กรุณาคลิกที่นี่"
ขั้นตอน
1.) ดาวน์โหลดเอกสาร และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
2.) แนบไฟล์เอกสารที่ท่านกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
3.) ระบุข้อมูล Foreign tax identifying number
4.) เลือกตรงช่องวงกลม O ด้านหน้า หากท่านมีเอกสารสนับสนุนในกรณีสละความเป็นพลเมืองอเมริกันอย่างสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วให้กด “ถัดไป”
- ส่วนที่ 2 การยืนยันและการเปลี่ยนแปลงสถานะ
- ส่วนที่ 3 การยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลและการหักบัญชี
6. กรุณาเลือกตรงช่องวงกลม O ด้านล่าง หากท่านยืนยันว่าสถานะไม่ตรงกับส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมดของข้อมูล จากนั้นกด “ถัดไป”
7. เมื่อเข้ามาแล้วจะพบหน้า IDENTITY VERIFICATION กรุณาระบุรายละเอียดทั้งหมดให้ตรงตามข้อมูลที่แสดงตามบัตรประชาชนให้ครบถ้วน ดังภาพ
- ไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ (เช่น นาย นางสาว ฯลฯ)
- ระบุข้อมูลส่วนตัวให้ถูกต้อง ในช่องที่ให้ระบุชื่อกลาง (middle name) ห้ามกรอกชื่อเล่นหรือชื่ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ชื่อกลางที่เป็นทางการตามที่ระบุในบัตรประชาชน
- ระบุเบอร์โทรศัพท์ให้ถูกต้อง และกด “ยืนยัน OTP” บริเวณหัวข้อเบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันเบอร์โทรศัพท์ของท่าน
ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์ที่ท่านได้ทำการลงทะเบียนไว้ หลังจากได้รับ SMS ให้นำรหัสมากรอกเพื่อเป็นการยืนยันเบอร์โทรศัพท์ โปรดใส่รหัสให้ถูกต้อง ภายใน 2 นาที
เมื่อทำการยืนยันเบอร์โทรศัพท์สำเร็จ ปุ่ม “ยืนยัน OTP” จะเปลี่ยนเป็น “ยืนยันแล้ว” และท่านจะไม่สามารถแก้ไขเบอร์โทรศัพท์ได้ หากยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว กด “ถัดไป”
หากยืนยัน OTP ไม่สำเร็จ ท่านจะไม่สามารถทำการยืนยันตัวตนต่อได้
หมายเหตุ: สำหรับลูกค้า สัญชาติจีน ในช่อง "หมายเลขประจำตัวประชาชน" ให้กรอกหมายเลขประจำตัว 18 หลัก
8. ให้ท่านกรอกข้อมูลที่อยู่ตามข้อมูลบนบัตรประชาชน
หมายเหตุ: เลขหลังบัตรประชาชน ตัวภาษาอังกฤษจะมีเพียง 2 ตัวอักษรเท่านั้น ตั้งเเต่ตัวที่ 3 เป็นต้นไปจะเป็นตัวเลขทั้งหมด เช่น ME9 1111111
กรุณาเลือกตรงช่องวงกลม O ด้านล่างกรณีที่อยู่ที่สะดวกในการติดต่อไม่ใช่ที่อยู่ตามบัตรประชาชน และกรอกข้อมูลที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ให้ครบถ้วน จากนั้นกด “ถัดไป”
9. ระบุรายละเอียดอาชีพให้ชัดเจน โดยเลือกตรงช่องวงกลม O ด้านหน้าของแหล่งที่มาของเงินทุนและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ตามความเป็นจริง (อธิบายอาชีพของท่านเพิ่มเติมให้ชัดเจน ทั้งประเภทธรุกิจ ตำแหน่งของท่าน ชื่อที่ทำงาน และสถานที่ทำงาน)
หากท่านมีอาชีพเสริมหรือแหล่งรายได้อื่น ให้ท่านเลือกตรงช่องวงกลม O ด้านล่างและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ตามความเป็นจริง
จากนั้นกด "ถัดไป"
10. จากนั้นจะเข้าสู่ SUITABILITY TEST หรือ เเบบสอบถามความเหมาะสมต่อการลงทุน หากมีข้อใดให้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาระบุเพิ่มเติมให้ชัดเจน และโปรดตอบตามความเป็นจริง
11. รับรองว่าข้อมูลและเอกสารถูกต้องและเป็นความจริง โดยเลือกตรงช่องวงกลม O ด้านหน้า แล้วกด “ถัดไป”
12. จากนั้นท่านจะเข้าสู่ ขั้นตอนอัปโหลดภาพเอกสาร ที่ออกโดยภาครัฐเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กด “เริ่มอัปโหลดภาพเอกสาร” เพื่อเริ่มการอัปโหลด
หมายเหตุ:
- ท่านสามารถใช้รูปเอกสารตัวจริง หรือรูปถ่ายสำเนาของเอกสาร (เซ็นหรือไม่เซ็นรับรองเอกสารก็ได้)
- หากท่านเซ็นรับรองเอกสาร จะต้องไม่บดบังข้อมูลใดๆ บนเอกสาร
13. ให้ท่านอัปโหลดเอกสารสำคัญ ที่เห็นข้อมูลชัดเจน ไม่เลือนลาง ดังนี้ โดยการกดที่ช่องด้านขวามือหรือลากไฟล์มาวางที่บริเวณดังกล่าว โดยจะแบ่งประเภทเอกสารสำคัญของชาวต่างชาติที่สามารถอัปโหลดออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่ 1: ชาวต่างชาติที่ทำงานและ/หรืออาศัยในประเทศไทย
-
เอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องอัปโหลด ได้แก่
1.1 ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ยกเว้นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา
เอกสารยืนยันตัวตน (จำเป็น) (เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
(หรือ) ใบอนุญาตทำงานในประเทศ (Work Permit) ที่ส่วนราชการไทยออกให้ที่ยังไม่หมดอายุ
(หรือ) ตราอนุญาตเข้าประเทศไทย ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) หรือ Smart VISA (ต้องเป็นตราอนุญาตหรือวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ หรือ Valid อยู่เท่านั้น)
เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ (เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- เอกสารประจำตัวที่ออกโดยประเทศเจ้าของสัญชาติ (ที่ไม่ใช่หนังสือเดินทาง)
(หรือ) หนังสือรับรองจากนายจ้างโดยแนบบัตรประจำตัวประชาชนของนายจ้าง หรือหนังสือรับรองนิติบุคคล
(หรือ) เอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน SWIFT Authenticate หรือเอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน Notary Public (สำหรับลูกค้านิติบุคคล)
1.2 ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย สัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา (แรงงานต่างด้าว)
เอกสารยืนยันตัวตน (จำเป็น) (เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- เอกสารแสดงตนที่ส่วนราชการหรือรัฐ เจ้าของสัญชาติออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน
(หรือ) แบบรับรองรายการทะเบียนประวัติของ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ (ท.ร. 38/1)
เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ ได้แก่
- บัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มี สัญชาติไทย (เลขประจำตัว 13 หลัก ขึ้นต้นด้วย 00) และ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ออกให้ (บัตรสีชมพู หน้า-หลัง)
*** กรณีที่ท่านใช้เอกสารประเภท CI จะต้องแนบตราอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทย (VISA) และตราประทับกรณีอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ (Stay permit) จากหน่วยงานของประเทศไทยที่กำหนด
1.3 ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย (แต่ไม่ได้ทำงานในไทย)เอกสารยืนยันตัวตน (จำเป็น)(เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- ตราอนุญาตเข้าประเทศไทย (VISA) ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non – Immigrant Visa) รหัส O-X หรือ รหัส O-A หรือตราประทับสำหรับกรณีที่ใช้ ชีวิตบั้นปลาย (Retirement) ในประเทศ ไทย (ต้องเป็นตราอนุญาตหรือวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ หรือ Valid อยู่เท่านั้น)
(หรือ) ตราอนุญาตเข้าประเทศไทย ประเภทคน อยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) หรือ Long Stay ต้องใช้ประกอบกับ หนังสือรับรองจากสถานทูต
เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ ได้แก่
- เอกสารประจำตัวที่ออกโดยประเทศเจ้าของสัญชาติ (ที่ไม่ใช่หนังสือเดินทาง)
(หรือ) เอกสารแสดงถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เช่น ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก, ใบสำคัญถิ่นที่อยู่, หนังสือรับรองถิ่นที่พักอาศัย, ใบอนุญาตขับรถ [หน้า-หลัง]
(หรือ) เอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน SWIFT Authenticate หรือเอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน Notary Public
(หรือ) หนังสือรับรองจากสถานทูต
- ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
ประเภทที่ 2: ชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจในประเทศไทย
-
เอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องอัปโหลด ได้แก่
เอกสารยืนยันตัวตน (จำเป็น) ได้แก่
- ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
(หรือ) ตราอนุญาตเข้าประเทศไทย ประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) หรือ Smart VISA (ต้องเป็นตราอนุญาตหรือวีซ่าที่ยังไม่หมดอายุ หรือ Valid อยู่เท่านั้น)
เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ (เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- เอกสารประจำตัวที่ออกโดยประเทศเจ้าของสัญชาติ (ที่ไม่ใช่หนังสือเดินทาง)
(หรือ) เอกสารแสดงถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เช่น ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก, ใบสำคัญถิ่นที่อยู่, หนังสือรับรองถิ่นที่พักอาศัย, ใบอนุญาตขับรถ [หน้า-หลัง]
(หรือ) เอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน SWIFT Authenticate หรือเอกสารการพิสูจน์ตัวตนลูกค้าผ่าน Notary Public (สำหรับลูกค้านิติบุคคล)
- ทะเบียนบ้านเล่มปกสีเหลือง (ทร.13) ที่ระบุเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก
ประเภทที่ 3: ชาวต่างชาติที่ไม่ได้ทำงานและไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย
-
เอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องอัปโหลด ได้แก่
เอกสารยืนยันตัวตน (จำเป็น) สามารเลือกส่งได้ 2 ฉบับ โดยไม่ต้องส่งเอกสารเพิ่มเติมที่น่าเชื่อถือ ได้แก่
- บัตรประชาชน
(หรือ) ทะเบียนบ้าน
(หรือ) ใบขับขี่
(หรือ) เอกสารของรัฐเจ้าของสัญชาติออกให้ (ที่ไม่ใช่หนังสือเดินทาง)
เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ (เลือกส่ง 1 รายการหรือมากกว่า) ได้แก่
- หลักฐานการเสียภาษี
(หรือ) ใบกำกับภาษี
(หรือ) บัตรนักเรียน/ นักศึกษา (ต้องมีรูปถ่ายตัวบุคคลอย่างชัดเจนด้วย)
- บัตรประชาชน
หมายเหตุ:
- ท่านสามารถใช้รูปเอกสารตัวจริง หรือรูปถ่ายสำเนาของเอกสาร โดยหากท่านใช้รูปสำเนา ต้องทำการเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องบนเอกสารด้วย
- การเซ็นรับรองสำเนาเอกสาร ต้องไม่บดบังข้อมูลใดๆ บนเอกสาร
- ภาพที่อัปโหลดต้องชัด ข้อมูลครบถ้วน และเอกสารยังไม่หมดอายุ
- ภาพเอกสารต้องเห็นรายละเอียด หน้าแรกที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบ้าน และหน้าเอกสารที่แสดงชื่อ นามสกุลของท่าน
- สำหรับเอกสารเพิ่มเติม (เอกสารประกอบอื่นที่น่าเชื่อถือ) ท่านสามารถอัปโหลดเอกสารได้มากกว่า 1 รายการเพื่อประกอบการพิจารณาการเปิดบัญชี
- ระบบรองรับไฟล์ JPG, JPEG และ PDF ที่มีขนาดไม่เกิน 20 MB ต่อไฟล์
14. เมื่อท่านอัปโหลดเอกสารสำคัญตามที่ระบุครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ต่อไป” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปในการยืนยันตัวตน หรือกด “บันทึก” เพื่อบันทึกเอกสารไว้สำหรับดำเนินการต่อในภายหลัง
15. กด “ถัดไป” เว็บจะพาท่านเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายในการยืนยันตัวตนด้วยรูปถ่าย โดยมี 2 ทางเลือก (ให้ท่านเลือกวิธีที่ท่านสะดวก) ได้แก่
(1.) การสแกน QR code หรือ
(2.) การอัปโหลดรูปภาพ
ในกรณีที่ท่านสะดวกใช้วิธี (1.) สแกน QR code ให้ท่านทำการสแกน QR code หลังจากนั้นจะมีลิงก์พาท่านไปที่หน้าเว็บเพจ พร้อมข้อความว่า เริ่มการตรวจสอบ ให้ท่านกด “เริ่ม”
จากนั้นจะมีการแจ้งเตือนเพื่อขออนุญาตในการเข้าถึงกล้องบนมือถือของท่านเพื่อถ่ายภาพ ให้ท่านกด อนุญาต (Allow)
ระบบจะทำการเปิดกล้องเพื่อให้ท่านถ่ายภาพเอกสารยืนยันตัวตนทั้งหมด 3 ภาพ ได้แก่
(1.) ภาพด้านหน้าพาสปอร์ต
(2.) ภาพเซลฟี่ (ภาพถ่ายใบหน้าของท่าน)
เมื่อสำเร็จขั้นตอนเเล้ว ท่านจะพบข้อความ "อยู่ระหว่างตรวจสอบ" หลังจากนั้นรอดำเนินการ ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาประมาณ 1-15 วันสำหรับการตรวจสอบ ***
ในกรณีที่ท่านสะดวกยืนยันตัวตนด้วยวิธี (2.) อัปโหลดรูปภาพ ให้ท่านคลิกที่คำว่า “ที่นี่”
จากนั้นจะมีภาพสาธิตการถือเอกสารที่ชัดเจนและถูกต้องเพื่อเป็นตัวอย่าง ให้ท่านศึกษารายละเอียดก่อนคลิก “ตกลง”
จากนั้นให้ท่านทำการอัปโหลดภาพถ่ายหน้าพาสปอร์ตและภาพเซลฟี่ หรือ ลากไฟล์รูปถ่ายของท่านมาลงบนช่องสี่เหลี่ยม และโปรดตรวจสอบเอกสารของท่านว่ามีความชัดเจนและอ่านได้ รวมถึงดำเนินการตามข้อกำหนดในการยืนยันตัวตน
เมื่อตรวจสอบความถูกต้องและความชัดเจนของเอกสารแล้ว ให้กด "ถัดไป"
หมายเหตุ:
- รูปภาพที่อัปโหลดจะต้องมีขนาดไฟล์ไม่เกิน 5 MB และเป็นสกุลไฟล์ JPG, PNG, GIF หรือ PDF เท่านั้น
- หนังสือเดินทางที่อัปโหลดต้องมีอายุมากกว่า 3 เดือนขึ้นไป
เมื่อสำเร็จขั้นตอนเเล้ว ท่านจะพบข้อความ "อยู่ระหว่างตรวจสอบ" หลังจากนั้นรอดำเนินการ ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาประมาณ 1-15 วันสำหรับการตรวจสอบ ***
*** หมายเหตุ:
-ในกรณีที่มีผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาจใช้เวลาในการดำเนินการนานกว่าปกติ
-ในกรณีที่มีผู้ใช้มีเงื่อนไขเพิ่มเติม อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 60 วัน ทั้งนี้ หากมีการยันตัวตนเข้ามาเป็นจำนวนมาก อาจใช้เวลาในการดำเนินการนานกว่าปกติ
- การยืนยันตัวตนของท่านจะมีรอบการทบทวนข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นไปตามนโยนายบริหารความเสี่ยง และวงเงินในการถอนต่อวันของบัญชีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการยืนยันตัวตนและนโยบายของบริษัท ณ เวลานั้นๆ เพื่อการป้องกันและจัดการความเสี่ยงของผู้ใช้บริการ ในกรณีที่ท่านต้องการเพิ่มลิมิตวงเงินสำหรับการทำธุรกรรมต่อวันบนบัญชีของท่าน ท่านสามารถส่งคำขอเพื่อขอเพิ่มวงเงินได้ทุกเมื่อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือส่งคำขอได้ที่ Bitkub Support
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อเรา
Bitkub Exchange
เว็บไซต์: www.bitkub.com
ติดต่อเรา: Bitkub Support
โทรศัพท์: 02-032-9555
ข้อคิดเห็น
2 ข้อคิดเห็น
กานเรียนรู้สิ่งต่างจากคนอื่นด้วยค่ะ
สนใจจะสมัคร